News

นักลงทุนสัมพันธ์

 

STA ออกหุ้นกู้ 3,500 ล้านบาท ทริสให้เรทติ้ง A- ฐานะแกร่ง อีบิทดากว่า 9 พันล้าน

Backกุมภาพันธ์ 08, 2564

ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บมจ. ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) ที่ระดับ "A-" พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่"

ในขณะเดียวกัน ทริส ยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 3,500 ล้านบาท ของSTA ที่ระดับ "A-" อีกด้วย โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปจ่ายชำระหนี้และใช้เป็นเงินลงทุนตามแผนงานของบริษัท

อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงสถานะผู้นำของบริษัทในธุรกิจยางธรรมชาติ ตลอดจนความสามารถในการแข่งขันจากการเป็นผู้ประกอบการยางธรรมชาติตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงผลิตภัณฑ์ขั้นต้นของปลายน้ำ (Vertical Integration) และประวัติผลงานที่เข้มแข็งของคณะผู้บริหารของบริษัท ทว่าความแข็งแกร่งดังกล่าวก็ถูกลดทอนลงบางส่วนจากลักษณะความเป็นวงจรและผันผวนของราคายางธรรมชาติ รวมทั้งความท้าทายต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมยางธรรมชาติท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความไม่แน่นอน ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 รายได้จากการดำเนินงานรวมและกำไรสุทธิของSTA ยังคงเป็นไปตามประมาณการของทริสเรทติ้งสำหรับปี 2563 เต็มปี

โดย STA มีรายได้จากการดำเนินงานเติบโตที่ระดับ 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหรืออยู่ที่ 4.95 หมื่นล้านบาท บริษัทมีรายได้จากธุรกิจถุงมือยางเพิ่มขึ้นเป็น 34% จากความต้องการที่พุ่งขึ้นในช่วงไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น (รวมกำไรหรือขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ราคายาง) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากมาอยู่ที่ระดับ 20.7% จากระดับ 7.2% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสาเหตุมาจากการมีสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูงที่เพิ่มมากขึ้นและต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง

ในขณะเดียวกัน กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย(อีบิทดา)ของบริษัทก็ปรับตัวดีขึ้นด้วยเช่นกันโดยอยู่ที่ระดับ 9,509 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 เมื่อเทียบกับระดับ 2.5 พันล้านบาทในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้บริษัทรายงานผลกำไรสุทธิที่ 4,000 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 223 ล้านบาท

ทริสยังระบุอีกว่าโครงสร้างเงินทุนของ STA แข็งแกร่งขึ้นอย่างมากหลังจาก บมจ. ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) (STGT) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทประสบความสำเร็จในการระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(ไอพีโอ)ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 รายได้สุทธิจากการเสนอขายหุ้นใหม่ของบริษัทลูกดังกล่าวจำนวน 1.46 หมื่นล้านบาทส่งผลทำให้อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทลดลงอย่างมากมาอยู่ที่ระดับ 8.1% ณ เดือนกันยายน 2563 จากระดับ 51.7% ณ เดือนธันวาคม 2562 ทั้งนี้ ภายใต้สมมติฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทจะอยู่ที่ระดับ 19%-31% ในช่วงปี 2563-2565

ทริส คาดว่าSTAจะยังคงสามารถรักษาสภาพคล่องที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ บริษัทมีภาระหนี้ที่จะครบกำหนดชำระจำนวน 1.1-1.4 พันล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2563-2565 โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2563 บริษัทมีเงินสดในมือและเงินลงทุนระยะสั้นจำนวน 1.89 หมื่นล้านบาทและวงเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินอีกกว่า 2.57 หมื่นล้านบาท

ที่มา : moneyandbanking