
กลุ่มบริษัทศรีตรังเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยางธรรมชาติและถุงมือยางระดับโลก โดยเป็นบริษัทไทยที่มีรากฐานจากโรงงานยางแผ่นรมควันที่จังหวัดสงขลา และเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตลอดช่วงเวลา 37 ปี ปัจจุบันเรามีโรงงานผลิตยางธรรมชาติและถุงมือยางทั้งในประเทศไทย อินโดนีเซีย เมียนมา และไอวอรี่โคสต์ รวมกว่า 41 โรงงาน นอกจากนี้ เรายังมีศูนย์จัดจำหน่ายตั้งอยู่ในประเทศไทย สิงคโปร์ จีน สหรัฐอเมริกา เวียดนาม และฟิลิปปินส์ รวมโรงงานและศูนย์จัดจำหน่ายใน 9 ประเทศทั่วโลก สิ่งที่เราเชื่อมั่นและให้ความสำคัญมาโดยตลอด คือ “การพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง”
ความสำเร็จในปี 2567
ปี 2567 ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของกลุ่มบริษัทศรีตรังที่สะท้อนให้เห็นการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยางธรรมชาติ จากอิทธิพลของเอลนีโญที่ลดลง ทำให้สภาพอากาศกลับมาใกล้เคียงปกติส่งผลให้อุปทานยางธรรมชาติให้ผลผลิตที่ดีขึ้นจากสภาพอากาศที่เปลี่ยน ต่อจากนั้นในช่วงปลายปีจึงเข้าสู่ลานีญา ประกอบกับอุปสงค์ที่ฟื้นตัวจากกลุ่มผู้ผลิตยางล้อช่วยหนุนให้ราคายางพาราปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 30 จากปีก่อน ส่งผลเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ อย่างชัดเจน โดยบริษัทฯ สามารถสร้างรายได้รวม 114,374 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.8 และมีกำไรสุทธิ 1,670 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีที่ผ่านมา รวมถึงปริมาณการขายยางธรรมชาติอยู่ที่ 1.4 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.3 จากปีก่อนและปริมาณการขายถุงมือยางสามารถสร้างสถิติใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 38,549 ล้านชิ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.8
อีกทั้ง บริษัทฯ มีความพร้อมสำหรับกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่า (EU Deforestation-Free Products Regulation: EUDR) จากสหภาพยุโรปและได้เริ่มจำหน่ายและส่งมอบยาง EUDR ที่สอดคล้องกับมาตรฐานดังกล่าวแล้วในปีนี้ ซึ่งช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์และรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนห่วงโซ่อุปทาน
นอกจากนี้ ธุรกิจของบริษัทฯ ยังมีการเติบโตในทุกภาคส่วน โดยในปี 2567 บริษัท ศรีตรัง รับเบอร์ แอนด์ แพลนเทชั่น จำกัด (SRP) ซึ่งดำเนินธุรกิจสวนยางพาราและพืชเศรษฐกิจอื่น สามารถทำกำไรได้เป็นปีแรกหลังจากช่วงเวลาการลงทุนและรอให้ต้นยางเติบโตเต็มที่ ปีนี้เป็นปีที่ SRP เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตในปริมาณสูงสุด ประกอบกับราคายางที่ปรับตัวขึ้น ความสำเร็จนี้สะท้อนถึงศักยภาพของศรีตรังในการบริหารห่วงโซ่ธุรกิจยางครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
นอกจากผลการดำเนินงานที่โดดเด่นแล้ว บริษัทฯ ยังมุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงในหลายมิติ ในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวทางความยั่งยืนควบคู่กับการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ามาปรับใช้ โดยเฉพาะเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ซึ่งบริษัทฯ ได้จัดตั้งหน่วยงานด้าน AI ตั้งแต่ปีก่อน และเดินหน้าพัฒนาความรู้ พร้อมต่อยอดการใช้งานในระดับปฏิบัติการเพื่อยกระดับประสิทธิภาพในทุกกระบวนการทำงานขององค์กรในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้เดินหน้าขยายกำลังการผลิตโรงงานยางธรรมชาติ ซึ่งเป็นโครงการระยะยาวที่ดำเนินการต่อเนื่องมากว่า 3 ปี โดยการตัดสินใจขยายกำลังการผลิตเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2564 เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ซึ่งในขณะนั้นบริษัทฯ มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2.82 ล้านตันต่อปี การขยายกำลังการผลิตได้มีความคืบหน้าเกือบเสร็จสมบูรณ์ จึงทำให้ ณ สิ้นปี 2567 มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 3.72 ล้านตันต่อปี และจะแล้วเสร็จภายในปี 2569 เป็นจำนวน 4.00 ล้านตันต่อปี
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายศักยภาพการผลิตในระดับสากล หลังจากที่ได้เปิดศูนย์รับซื้อวัตถุดิบที่ไอวอรี่โคสต์ ไปเมื่อปีก่อน ปีนี้บริษัทฯ ได้จัดตั้งโรงงานแห่งใหม่ที่ไอวอรี่โคสต์สำเร็จแล้ว ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตระดับโลก รองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยางธรรมชาติ
2568 ปีแห่งการเก็บเกี่ยว
ปี 2568 จะเป็นปีที่กลุ่มบริษัทศรีตรังพร้อมก้าวเข้าสู่การเริ่มต้นบทใหม่ที่ยิ่งใหญ่ หลังจากการลงทุนและความพยายามตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราอยู่ในจุดที่พร้อมเก็บเกี่ยวผลลัพธ์จากการขยายกำลังการผลิตโรงงานยางแท่ง เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลก และใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดจากความเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจโลก
เรามุ่งเน้นการนำศักยภาพและทรัพยากรที่ได้สร้างไว้อย่างเต็มรูปแบบมาใช้ เพื่อเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน เราจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อขับเคลื่อนองค์กร และการเสริมสร้างความโปร่งใสและความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทานผ่านระบบการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการยกระดับธุรกิจให้สอดคล้องกับมาตรฐานระดับโลก ปี 2568 จึงไม่ใช่เพียงปีแห่งการเก็บเกี่ยว แต่ยังเป็นปีแห่งการเติบโตที่มั่นคง เราพร้อมที่จะเผชิญทุกความท้าทายและก้าวสู่อนาคตที่แข็งแกร่ง
One Sri Trang สู่อนาคตที่ยั่งยืน
ทีมงานศรีตรังในวันนี้เปรียบเสมือนการรวมพลังของคนสองรุ่น คือ ทีมผู้บุกเบิกที่วางรากฐานอย่างมั่นคง และทีมคนรุ่นใหม่ที่นำความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมมาผสมผสาน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ (Game Changer) ที่ตอบโจทย์โลกยุคใหม่อย่างมีวิสัยทัศน์
ทุกความสำเร็จของเราในวันนี้มาจากความร่วมมือของทีมงาน คู่ค้า และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย
ผมขอขอบคุณทุกท่านสำหรับความเชื่อมั่น และการสนับสนุนที่มีต่อบริษัทฯ กลุ่มบริษัทศรีตรังยังคงยืนหยัดที่จะสร้างความแตกต่างและก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆ เพื่อผลักดันองค์กรสู่การเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน ขอบคุณครับ
ดร. ไวยวุฒิ สินเจริญกุล
ประธานกรรมการ
บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน)