สารจากประธานกรรมการ

นักลงทุนสัมพันธ์

 

ในปี 2566 ภาพรวมเศรษฐกิจโลกได้เกิดเหตุการณ์ที่สำคัญหลาย ประการ อาทิ อัตราเงินเฟ้อที่เริ่มนิ่งขึ้น โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องจากปีก่อน ทำให้อัตรา เงินเฟ้อในสหรัฐฯ ลดลง โดยไม่นำไปสู่สภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงตัวเลขการบริโภคของสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งแกร่ง ในขณะ เดียวกันสำหรับภูมิภาคเอเชียได้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ปัญหาวิกฤตอสังหาริมทรัพย์จีน รวมถึงปัญหาความขัดแย้งทาง รัฐภูมิศาสตร์ เช่น สงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาส สถานการณ์ ทางการเมืองในประเทศเมียนมาที่เริ่มแย่ลง นอกจากนี้ ยังมีการ เลือกตั้งที่สำคัญในประเทศไทย ความท้าทายจากเหตุการณ์เหล่านี้ เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อทั้งภาวะเศรษฐกิจโดยรวมและ สถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ กลุ่มบริษัทศรีตรังฯ ยังคง สามารถดำเนินธุรกิจและเติบโตอย่างต่อเนื่องภายใต้สถานการณ์ ที่ผันผวน พร้อมรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจยางธรรมชาติแบบ ครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยกำลังการผลิตยางธรรมชาติ รวมกว่า 3.62 ล้านตัน พร้อมแผนขยายโรงงานเพิ่มเติมเพื่อมุ่งสู่ เป้าหมายกำลังการผลิตที่ 4.12 ล้านตันในปี 2568

สำหรับอุตสาหกรรมยางพาราในปี 2566 นั้นยังคงมีความผันผวน และอุปสรรคต่าง ๆ ทั้งจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ความผันผวน ของราคา และปริมาณความต้องการในบางอุตสาหกรรมที่ลดลง ทำให้การดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมยางในปีที่ผ่านมานั้นไม่ใช่สิ่งที่ ง่ายและเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ด้วยประสบการณ์และความ เชี่ยวชาญในธุรกิจยางธรรมชาติกว่า 36 ปี ประกอบกับการปรับตัว ตลอดเวลา ทำให้บริษัทฯ ยังคงสามารถสร้างมูลค่าและขยายการ เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เราได้ดำเนินการเปิดศูนย์รับซื้อ วัตถุดิบยางพาราที่ประเทศไอวอรี่โคสต์ในแอฟริกาตะวันตก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพการเติบโตของอุตสาหกรรมยางในระดับ สูงสำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วในปีที่ผ่านมา และเตรียมพร้อมพื้นที่ สำหรับการเปิดโรงงานในลำดับต่อไป ตอกย้ำความเป็นผู้นำใน อุตสาหกรรมยางพาราอย่างแท้จริง และถือเป็นโอกาสในการ เข้าไปลงทุนขยายธุรกิจของเราด้วยเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ ต้องยอมรับว่าในปี 2566 เป็นปีที่โลกมีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว จากเมกะเทรนด์ต่าง ๆ ที่เข้ามามีบทบาทและส่งผล กระทบต่อธุรกิจและหลายอุตสาหกรรม สิ่งหนึ่งที่เห็นได้อย่าง

ชัดเจน คือ การพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เช่น ChatGPT การใช้พลังงานสะอาด (Clean Energy) การลดการปล่อยก๊าซเรือน กระจกและคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงการขับเคลื่อนของรถยนต์ ไฟฟ้า (EV Car) ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทศรีตรังตระหนักดีถึงความสำคัญ ของสิ่งเหล่านี้และได้วางแผนรองรับเพื่อใช้ประโยชน์และโอกาส จากเทรนด์ต่าง ๆ เพื่อพัฒนาธุรกิจและอุตสาหกรรมของเราไปให้ดียิ่งขึ้น เราได้ลงทุนจัดตั้งคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญเพื่อศึกษา ปัญญาประดิษฐ์ นวัตกรรม และเมกะเทรนด์ต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์ในองค์กร เราเล็งเห็นว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นอีกกำลัง สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของเรา

ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลประกอบกับเจตนารมณ์แห่งการเติบโต อย่างยั่งยืน ทำให้กลุ่มบริษัทศรีตรังเป็นบริษัทยางพาราสีเขียว ที่ตระหนักและให้ความสำคัญอย่างมากในการดำเนินงานด้าน ความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล และเศรษฐกิจ (ESG) มานานกว่า 10 ปี ซึ่งถือว่าเป็น DNA ของเรา โดยนอกเหนือจากการดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่สืบ เนื่องมา รวมถึงการรับรองมาตรฐานการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน (FSC) การขึ้นทะเบียนและขอรับรองคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) และการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอื่น ๆ ในช่วงปี 2566 บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมรองรับ กฎระเบียบว่าด้วยสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่า (EU Deforestation-Free Products Regulation: EUDR) ซึ่งมุ่งเน้น เรื่องการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) สำหรับสินค้า 7 ชนิด รวมถึงยางพาราที่จะส่งออกไปยังสหภาพยุโรป โดยจะ เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ต้นปีหน้า เป็นต้นไป โดยเราได้มีการ ทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด รวมถึงพัฒนาต่อยอด SRI TRANG FRIENDS PLATFORM และระบบดิจิทัลอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการตรวจสอบย้อนกลับยางพาราของเราอย่าง เต็มรูปแบบ ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความมั่นใจและมองว่า EUDR เป็น โอกาสทางธุรกิจสำหรับศรีตรังและประเทศไทยซึ่งมีศักยภาพ และความพร้อมอย่างแท้จริง กลุ่มบริษัทศรีตรังคำนึงถึงการ ดำเนินธุรกิจภายใต้ความยั่งยืนโดยเสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับ การพัฒนาของโลกอย่างยั่งยืน

สำหรับปี 2567 ที่กำลังจะมาถึงนี้ เราอาจเห็นความไม่แน่นอนทาง เศรษฐกิจต่าง ๆ รวมถึงเงินเฟ้อที่ลดลงจากการคาดการณ์การปรับ ลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำให้เศรษฐกิจของ สหรัฐอเมริกามีความไม่แน่นอน นอกจากนี้ ยังต้องจับตามอง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างภูมิภาค (Geopolitical Tensions) รวมถึงความแปรปรวนของสภาพอากาศ ซึ่งอาจมีผลกระทบกับเราได้ ดังนั้น เราต้องไม่ประมาทและเตรียมความพร้อมสำหรับสิ่งที่จะ เกิดขึ้นในปี 2567 สุดท้ายนี้ ผมหวังว่าทุกท่านจะประสบความ สำเร็จและผ่านพ้นเหตุการณ์ต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท ศรีตรังยังคงเดินหน้าเน้นการลงทุนและสร้างการเติบโตอย่าง ต่อเนื่องในปี 2567 เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจยาง ธรรมชาติ พร้อมสร้างความแตกต่างด้วยการผสานความเป็น ดิจิทัลควบคู่กับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน นำร่องยกระดับ และปฏิวัติอุตสาหกรรมยางพาราไทยไปอีกขั้น ขอบคุณครับ

ดร. ไวยวุฒิ สินเจริญกุล
ประธานกรรมการ
บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน)