News

นักลงทุนสัมพันธ์

 

STA ทำรายได้ไตรมาสแรก 24,426 ล้านบาท เตรียมรับปัจจัยบวกใน Q2 ชี้สต๊อกวัตถุดิบผู้ประกอบการล้อยางทยอยลดลง หนุนดีมานด์และราคายางปรับตัวดีขึ้น

Backพฤษภาคม 10, 2566

บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (“STA” หรือ “บริษัทฯ) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปีนี้ มีปริมาณการขายยางธรรมชาติ 400,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าผันผวน ส่งผลให้มีรายได้จากการขายและบริการ 24,426 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 288 ล้านบาท ชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 2/2566 เห็นสัญญาณบวกจากระดับสต๊อกวัตถุดิบของผู้ประกอบการยางล้อที่ทยอยลดลง จะหนุนดีมานด์และราคายางค่อยๆปรับตัวดีขึ้น พร้อมขยายกำลังการผลิตตามแผนงานที่วางไว้

นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลกและผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 มีปริมาณการขายยางธรรมชาติรวม 400,000 ตัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่มีปริมาณการขายรวม 386,000 แสนตัน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยที่ปรับลดลง ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการ 24,426 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 288 ล้านบาท ชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ คาดว่าภาพรวมความต้องการใช้ยางธรรมชาติในไตรมาส 2/2566 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณสต๊อกวัตถุดิบของกลุ่มผู้ประกอบการล้อยางในปัจจุบันเริ่มทยอยลดลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคายางในตลาดโลกที่มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นและส่งผลดีต่อภาพรวมรายได้ของบริษัทฯ

ขณะเดียวกัน คาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 2/2566 จะได้รับผลดีจากปัจจัยบวกต่างๆ ได้แก่ 1) กำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นกว่า 245,000 ตันต่อปีในไตรมาสแรกที่ผ่านมา จากการขยายโรงงานที่แล้วเสร็จในจ.สระแก้วและจ.กาฬสินธุ์ 2) ความต้องการใช้ยางแท่งที่ยังคงมีมากกว่ากำลังการผลิตของบริษัทฯ 3) บริษัทฯ ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน Sri Trang Friends ให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาวัตถุดิบ เพื่อให้ความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติของบริษัทฯ ไม่ได้มาจากแหล่งปลูกยางที่มีการตัดไม้ทำลายป่า จึงสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ายุโรปที่เตรียมประกาศใช้ The European Union (EU) Regulation on Deforestation-Free Products (EUDR) หรือกฎหมายว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า

“เรามองว่าแนวโน้มดีมานด์ยางธรรมชาติจากกลุ่มผู้ประกอบการล้อยางจะปรับเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง ดังนั้นปัจจุบันบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าแผนขยายกำลังการผลิตยางแท่งและน้ำยางข้น ซึ่งจะทยอยแล้วเสร็จในไตรมาส 3 – 4 ของปีนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับตลาดที่กำลังปรับตัวดีขึ้นและจะเป็นโอกาสของบริษัทฯ ในการเพิ่มปริมาณการขายและส่วนแบ่งอุตสาหกรรมยางธรรมชาติในตลาดโลก” นายวีรสิทธิ์ กล่าว