กลุ่มบริษัทศรีตรัง' ยกระดับคุณภาพยางพาราไทยสู่มาตรฐานโลก รวมพลังจัด 3 งานใหญ่แก่คู่ค้า เกษตรกร ชุมชน เสริมความรู้ยางมีพิกัด (GPS) มาตรฐานกฎ EUDR ประกาศชัดไม่ซื้อยางเถื่อน หรือยางผิดกฎหมาย
“กลุ่มบริษัทศรีตรัง” ก้าวสู่ปีที่ 38 มุ่งสู่ผู้นำอุตสาหกรรมยางสีเขียวด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ สะอาด ปลอดภัย เดินหน้าให้ความรู้แก่สังคมเพื่อยกระดับคุณภาพยางก้อนถ้วยและน้ำยางไทยสู่มาตรฐานระดับโลก พร้อมร่วมรับผิดชอบต่อสังคม รณรงค์ให้ใช้รถขนส่งยางที่ได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง โดยพร้อมใจจัดงานใหญ่ภายใต้โครงการศรีตรังเพื่อนชาวสวนร่วมกันทุกสาขาทั่วประเทศไทย เริ่มจากวัตถุดิบยางก้อนถ้วยกับงาน “บรรทุกยาง ติดราง สร้างรอยยิ้ม ปี 8” และงาน “ยางก้อนถ้วยคุณภาพดีสร้างสุข ปี 4” ที่จัดขึ้นตลอดเดือนมีนาคม - มิถุนายนที่ผ่านมา โดยกลุ่มบริษัทศรีตรังทั้ง 17 สาขาของโรงงานยางแท่งทั่วประเทศและศูนย์รับซื้อยางพาราอีก 2 แห่ง เพื่อตอกย้ำเจตนารมณ์และรณรงค์แบ่งปันความรู้แก่เกษตรกรชาวสวนยางและคู่ค้าให้ร่วมกันขนส่งยางพาราด้วยรถที่ได้มาตรฐาน ร่วมสร้างชุมชนน่าอยู่และปลอดอุบัติเหตุ ซึ่งมีคู่ค้าเพื่อนชาวสวน เกษตรกรชาวสวนยาง หน่วยงานราชการ ชุมชน และผู้ประกอบการขนส่ง เข้าร่วมทั้ง 2 งานรวม 943 คน และร้อยละ 99.1 ของผู้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว มีความพึงพอใจมาก – มากที่สุด นอกจากนี้ในส่วนน้ำยาง กลุ่มบริษัทศรีตรังร่วมกันจัดงาน “น้ำยางคุณภาพดีสร้างสุข ปีที่ 5” ในรูปแบบการจัดกิจกรรมโรดโชว์ในจังหวัดต่างๆ ครอบคลุม 9 สาขาในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ อาทิ ศรีสะเกษ, สกลนคร, ตรัง (2 สาขา), สงขลา, ชุมพร ฯลฯ ในเดือนพฤษภาคม - กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการผลิตน้ำยางคุณภาพดีอย่างถูกวิธี การดูแลรักษาสภาพน้ำยางอย่างมีคุณภาพก่อนถึงจุดรับซื้อที่โรงงาน ไปจนถึงการขนส่งน้ำยางด้วยรถที่มีมาตรฐาน แก่เกษตรกร ผู้ค้ายางรายย่อย และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทาน โดยมีคู่ค้า เกษตรกรชาวสวนยาง หน่วยงานราชการและชุมชน เข้าร่วมงานจำนวนถึง 385 คน และร้อยละ 99.8 ของผู้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวมีความพึงพอใจมาก - มากที่สุด
ซึ่งทั้ง 3 งานใหญ่ที่กลุ่มบริษัทศรีตรังจัดขึ้นนั้นยังเพื่อสานต่อการดำเนินงานตามเจตนารมณ์ “ศรีตรังผู้นำด้านยาง EUDR” (SRI TRANG EUDR LEADER) อย่างต่อเนื่อง และมุ่งยกระดับคุณภาพยางไทยสู่มาตรฐานระดับโลก พร้อมกันนี้บริษัทฯ ได้นำทีมงานวิทยากรผู้เชี่ยวชาญร่วมให้ความรู้มากมาย อาทิ ยางมีพิกัด (GPS), ความรู้ด้านกฎ EUDR และการไม่รับซื้อยางผิดกฎหมาย (ยางเถื่อน) เป็นต้น เรียกได้ว่าจัดเต็มเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยางพาราไทยอย่างยั่งยืนอย่างแท้จริง